5 วิธีลดงานเพื่อความสำเร็จ

ช่วงนี้ใกล้สิ้นปี 2558 แล้ว
เก๋มีโอกาสได้ทำ Group Coaching ให้กับลูกค้า
ในการทบทวนการทำงานในปีที่ผ่านมา
และตั้งเป้าหมายสำหรับปีใหม่ที่จะมาถึง

เลยทำให้นึกการให้สัมภาษณ์ของ Jack Ma
ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ชื่อดัง Alibaba.com
ในรายการของ KBS ที่เกาหลี
ถึงเคล็ดลับของการดำเนินชีวิตในแต่ละช่วงว่า

jack ma

ก่อนอายุ 20 ปี:
ตั้งใจเรียน

ก่อนอายุ 30 ปี:
หาเจ้านายต้นแบบเพื่อติดตามและเรียนรู้จากคนนั้น

ระหว่าง 30-40 ปี:
ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว

ระหว่าง 40-50 ปี:
มุ่งทำในสิ่งที่เราถนัดหรือเชี่ยวชาญ  เพราะด้วยวัยนี้จะไม่ใช่เวลามาค้นหาตัวตนเหมือนตอนเป็นวัยรุ่นแล้ว

ระหว่าง 50-60 ปี:
ทำงานโดยให้การสนับสนุนคนรุ่นใหม่  ลงทุนกับคนกลุ่มนี้เพราะเขาเป็นกำลังสำคัญ  และที่สำคัญเขาเก่งกว่า คล่องแคล่วกว่า

60 ปีขึ้นไป:
มีความสุขกับการใช้ชีวิตกับตนเอง พักผ่อน นอนอาบแดด

<สัมภาษณ์ Jack Ma ในรายการ KBS> 

เก๋เองมีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
ซึ่งนำเสนอแนวคิดคล้าย ๆ กับที่ Jack Ma พูดไว้
คือหนังสือที่ชื่อว่า “จงทิ้งงานไปครึ่งหนึ่งเมื่อถึงวัย 40
แต่งโดย Yoshinori Shimazu
(แปลโดย บรรเจิด ชวลิตเรืองฤทธิ์)

book 40

สิ่งที่ชอบในหนังสือคือแนวคิดที่ทำให้ชีวิตมีโฟกัส
โดยเชิญชวนให้ผู้อ่าน “ทิ้ง” งานที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นมุมที่แตกต่างท้าทายจากตรรกะ
ที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้รับการสอนมาว่า
ยิ่งมี Input มาก ยิ่งมีผลสำเร็จมาก

Shimazu กล่าวไว้ว่าในวัย 20-30
เป็นช่วงเวลาที่เราสั่งสม สร้างทักษะ
และไขว่คว้าสิ่งต่าง ๆ ใส่ตัว
ไม่ว่าจะเป็นนิสัย ความภูมิใจ
ลูกน้อง ความสำเร็จ
หน้าที่การงาน  Connection

ซึ่งพอรู้ตัวอีกทีสิ่งต่าง ๆ ทั้ง “ดี” และ “ร้าย”
ก็สะสมทับถมมากมายแยกแยะลำบากว่าอะไรใช่ไม่ใช่
อะไรก่อน อะไรหลัง อะไรจำเป็น อะไรไม่จำเป็น

คนวัย 40 จำนวนมากจึงต้องใช้ชีวิตแต่ละวัน
ไปกับการตะเกียกตะกายเพื่อไม่ให้จมหายไปกับงาน
หรือความรับผิดชอบที่ท่วมท้น

busy work 2

คงเหมือนที่ Jack Ma กล่าวว่า
ช่วงวัยนี้ไม่ใช่การมาค้นหา “เดอะสตาร์” ในตัวเรา
หากแต่เป็นช่วงที่เราควรจัดระเบียบชีวิต
แยกแยะ “สิ่งที่ต้องการ” กับ “สิ่งที่ไม่ต้องการ” ออกจากกัน

แล้ว “ทิ้ง” สิ่งที่ไม่ต้องการลงถังขยะไปซะ!

เก๋ขอสรุปใจความสำคัญ
คัดแยกเป็นหัวข้อใหญ่ ๆ ในการ “ทิ้ง” ดังนี้ค่ะ

1. ตัดใจ “ทิ้ง” เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

ทิ้งการยึดติดกับความสำเร็จด้วยวิธีเดิม ๆ ที่เคยใช้ในอดีต
ทิ้งมุมสบายของตัวเองในปัจจุบัน

ถ้าแบ่งลักษณะเฉพาะของพฤติกรรมมนุษย์ออกเป็น 3 แบบคือ
– คิดก่อนแล้วค่อยวิ่ง
– คิดไปวิ่งไป
– วิ่งก่อนแล้วค่อยคิด

วัย 40 เป็นช่วงเวลาที่รูปแบบการทำงาน
จะกลายเป็นแบบอนุรักษนิยม
หรือคอยตั้งรับเพื่อป้องกันตัวเอง

ดังนั้นการมองไปยังเส้นชัยแล้วเริ่มวิ่งออกไปก่อนน่าจะดีกว่า
ถึงงานอาจมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมดเพราะทำอย่างไม่รัดกุม
แต่ถ้าได้ลองออกวิ่งไปจนถึงเส้นชัยดูสักครั้ง
ภาพรวมและจุดที่ควรปรับปรุงของงานก็จะปรากฏชัดขึ้นมาเอง
ดังนั้นจงสร้างนิสัย “วิ่งก่อนแล้วค่อยคิด”

comfort zone

2. “นิสัย” เปลี่ยน พฤติกรรมเปลี่ยน

ทิ้งนิสัยอยากทำโน่นทำนี่สารพัด โดยใช้กฎ 3 ข้อ
กฎของเลข 3 คือ บีบเรื่องที่ต้องทำทุก ๆ เรื่อง
ให้เหลือแค่ 3 อย่าง
โดยเฉพาะเมื่อใดที่เรารู้สึกว่า….
– ยุ่งจนไม่มีเวลา
– มีเรื่องที่ต้องทำเยอะเกินไป
– เรี่ยวแรงถูกแบ่งออกไปหลายทาง
ให้ใช้ความกล้าหาญตัดสิ่งต่าง ๆ ทิ้งไป
แล้วบีบให้เหลือ “3 อย่าง”

habits

3. การเลือกแล้ว “โฟกัส”

แนวทาง 6 ข้อที่ใช้วิเคราะห์ว่างานที่ทำอยู่
เป็นอาชีพในฝันหรือเปล่า
1) ชอบหรือเปล่า?
2) ถนัดหรือเปล่า?
3) สนุกหรือเปล่า?
4) เป็นงานที่ให้ประโยชน์กับคนอื่นหรือเปล่า?
5) เป็นงานที่ถูกต้องหรือไม่เอาเปรียบสังคมหรือเปล่า?
6) คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจหรือเปล่า?

ถ้าผ่านเกณฑ์ 6 ข้อ……อาชีพในฝัน
ผ่านเกณฑ์ 5 ข้อ…..อาชีพที่เหมาะสม
ผ่านเกณฑ์ 3-4 ข้อ…..ทำงานแลกเงิน
ผ่านเกณฑ์ไม่เกิน 2 ข้อ…..ควรตัดทิ้งแล้วเปลี่ยนงานทันที

focus

4. เปลี่ยนตารางเวลา

แนวคิดเรื่อง Work-Life balance
ทำให้คนส่วนใหญ่คิดว่า
ต้องแยกเรื่องงานและชีวิตออกจากกัน
ทั้งที่ในความเป็นจริง
เป็นเรื่องที่ทำให้สมดุลกันไม่ได้อยู่แล้ว
ดังนั้นให้ตั้งเป้าไปยัง “ชีวิตที่สวยงาม”
ไม่ใช่ “สมดุลระหว่างงานกับชีวิต”

คนเรามีเวลาจำกัดเพียงวันละ 24 ชั่วโมง
เวลาที่เรากำลังทำอะไรสักอย่าง
ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นเวลาที่เรา
“ไม่ได้ทำ” อะไรอีกตั้งมากมาย
แบ่งเวลา 80% ให้กับเรื่องที่ก่อให้เกิดผลสำเร็จของงาน
ใช้เวลา 80% ของตัวเอง
ไปกับเรื่องที่สำคัญจริง ๆ 20%

less is more 3

5. สร้างสัมพันธ์กับคนที่สำคัญจริง ๆ

ในสมองคนเรามีเซลล์ประสาทที่เรียกว่า
เซลล์กระจกเงา (Mirror Neuron)
ดังนั้นถ้าใช้เวลานาน ๆ
อยู่กับคนที่ชอบพูดไร้สาระ
หรือเอาแต่ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตา
เซลล์กระจกเงาจะทำให้เราติดพฤติกรรมพวกนี้

คุณภาพทั้งเรื่องงานและชีวิต
จะเปลี่ยนไปตามผู้คนที่พบเจอ
ดังนั้น เราควรคบหาคนที่มีพลังบวกมาก ๆ
คนเหล่านี้มักมอบคำพูดที่ดี การเรียนรู้ที่ดี
ความมุ่งมั่นที่ดีให้เรา

spend time

คำถาม
ปีใหม่ที่จะถึงนี้เราจะ “ทิ้ง” งานหรือพฤติกรรมใด
ที่ไม่ก่อให้เกิดความสุขความสำเร็จในชีวิตกันบ้างคะ?

สวัสดีปีใหม่ 2559 ทุกท่านค่ะ

เครดิตภาพ:
workplacepsychology.net
thedailyquotes.com
quotesgram.com
http://www.bestsayingsquotes.com
likesuccess.com
http://www.pinterest.com/pin/236087205440750527/

**********************************
คลิ๊กที่นี่เพื่อติดตามสาระความรู้ล่าสุดที่แฟนเพจ “The Art of Growing”
The Art of Growing

Continue reading